วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เทคนิคการถ่ายรูปหน้าฝน BY FOTOFAKA · JULY 8, 2016 เรื่องสภาพอากาศเราคงบังคับให้มันเป้นไปดั่งใจเรา หรือให้มันดีทุกวันไม่ได้ และช่วงหน้าฝนนี้หลายคนอยู่บ้านไม่ได้ออกไปถ่ายรูปที่ไหนเลย เพราะคิดว่าคงจะไม่ได้รูปดีๆ แน่ วันนี้เราจะมาเรียนรู้การถ่ายรูปในช่วงหน้าฝน แล้วจะรู้ว่าหน้าฝนมีอะไรดีๆหลายอย่างซ่อนอยู่ รอให้คุณออกไปถ่ายมัน เอาล่ะ มาดูเทคนิคที่ว่ากัน  อย่างแรก การเตรียมตัว สิ่งที่ต้องระวังคือ อย่าให้กล้องหรืออุปกรณ์ของคุณเปียกเกินไป รักษาอุปกรณ์ของคุณด้วย คุณต้องรู้ว่าอุปกรณ์ของคุณทนต่อสภาพแวดล้อมได้แค่ไหน พยายามทำให้มันแห้งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้ว จะถ่ายอะไรดี ? ถ่ายผ่านหน้าต่าง ภาพนี้ถ่ายจากเรือเฟอรี่ แล้วโฟกัสที่อาคาร ภาพออกมาดูแย่มาก  มุมเดียวกัน แต่คราวนี้มาโฟกัสที่น้ำฝนที่หยดตรงหน้าต่าง ทำให้ภาพดูน่าสนใจขึ้น  ภาพด้านล่างนี้ถ่ายผ่านหน้าต่างรถแท็กซี่ โฟกัสระหว่างหน้าต่างและรถมอเตอร์ไซค์ ภาพออกมาดูเบลอๆ คล้ายภาพวาด  ถ่ายแอ่งน้ำ ที่ไหนมีฝน ที่นั่นมีน้ำขัง และน้ำขังเป็นกระจกสะท้อนชั้นดี พยายามหาสิ่งที่น่าสนใจให้มันสะท้อนในน้ำขังนั้น  ถ่ายหยดน้ำ หลังจากฝนตกจะมีหยดน้ำมาเกาะที่ดอกไม้หรือพื้นผิวต่างๆ มองดูว่าหยดน้ำเกาะอะไรที่น่าสนใจ แล้วถ่ายออกมาดู  ถ่ายเมฆและหมอก ก่อนฝนจะตกคุณจะเห็นเมฆครึ้มรูปแบบมันน่าสนใจ บางครั้งมันดูน่าสนใจไม่แพ้ วันอากาศดีๆเลย  บางครั้งอาจเจอลำแสงลอดผ่านเมฆ บางครั้งก็แสงที่ผ่านเมฆนั้นลงสู่ subject ที่เราสนใจเป็นหย่อมๆ ภาพก็ดูน่าสนใจไปอีกแบบ และเมฆเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ แสงก็จะเปลี่ยนไป จะถ่าย timelapse ก็ออกมาน่าสนใจเช่นกัน  การตั้งค่ากล้อง บางภาพที่แนะนำมา ต้องการการควบคุมกล้องที่ดี เพราะบางภาพใช้โหมดออโต้ถ่ายไม่ได้ เช่นถ่ายหยดน้ำที่หน้าต่าง หากใช้ auto มันอาจไปโฟกัสที่อาคาร ไม่ใช่ที่หยดน้ำ และทดลองระยะห่างที่ยืนจากหน้าต่างเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด บางครั้งก็ควรใช้โฟกัสแบบ manual ไปเลย เพราะกล้องส่วนใหญ่จะออโต้โฟกัสไปยัง subject ที่อยู่ด้านนอก สำหรับการถ่ายหยดน้ำตามดอกไม้ ใบไม้หรือพื้นผิวต่างๆ คุณสามารถใช้ Aperture Priority mode  ด้วยค่ารูรับแสงที่ต่างกันทำให้ผลลัพธ์ออกมาต่างกัน อย่างที่ทราบว่าถ้ารูรับแสงกว้าง(f/ 2.0 – f/5.6) จะทำให้ได้ภาพชัดตื้นกว่า และถ้ารูรับแสงแคบจะทำให้ได้ถาพชัดลึกมากกว่า แล้วแต่คุณต้องการว่าอยากให้ภาพมีระยะชัดแค่ไหน ดูแลกล้อง ดูแลตัวเอง พยามหาเสื้อกันฝนและร่มมาใช้ และอย่าเปลี่ยนเลนส์กลางฝน ระวังเรื่องความชื้นด้วย แม้กล้องจะทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆก็ตาม แต่หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปเสี่ยง และดูแลกล้องให้ดีพอๆกับ ดูแลสุขภาพของคุณด้วย

เทคนิคการถ่ายรูปหน้าฝน

BY FOTOFAKA · JULY 8, 2016

เรื่องสภาพอากาศเราคงบังคับให้มันเป้นไปดั่งใจเรา หรือให้มันดีทุกวันไม่ได้ และช่วงหน้าฝนนี้หลายคนอยู่บ้านไม่ได้ออกไปถ่ายรูปที่ไหนเลย เพราะคิดว่าคงจะไม่ได้รูปดีๆ แน่

วันนี้เราจะมาเรียนรู้การถ่ายรูปในช่วงหน้าฝน แล้วจะรู้ว่าหน้าฝนมีอะไรดีๆหลายอย่างซ่อนอยู่ รอให้คุณออกไปถ่ายมัน

เอาล่ะ มาดูเทคนิคที่ว่ากัน

อย่างแรก การเตรียมตัว

สิ่งที่ต้องระวังคือ อย่าให้กล้องหรืออุปกรณ์ของคุณเปียกเกินไป รักษาอุปกรณ์ของคุณด้วย คุณต้องรู้ว่าอุปกรณ์ของคุณทนต่อสภาพแวดล้อมได้แค่ไหน พยายามทำให้มันแห้งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แล้ว จะถ่ายอะไรดี ?

ถ่ายผ่านหน้าต่าง

ภาพนี้ถ่ายจากเรือเฟอรี่ แล้วโฟกัสที่อาคาร ภาพออกมาดูแย่มาก

มุมเดียวกัน แต่คราวนี้มาโฟกัสที่น้ำฝนที่หยดตรงหน้าต่าง ทำให้ภาพดูน่าสนใจขึ้น

ภาพด้านล่างนี้ถ่ายผ่านหน้าต่างรถแท็กซี่ โฟกัสระหว่างหน้าต่างและรถมอเตอร์ไซค์ ภาพออกมาดูเบลอๆ คล้ายภาพวาด

ถ่ายแอ่งน้ำ

ที่ไหนมีฝน ที่นั่นมีน้ำขัง และน้ำขังเป็นกระจกสะท้อนชั้นดี พยายามหาสิ่งที่น่าสนใจให้มันสะท้อนในน้ำขังนั้น

ถ่ายหยดน้ำ

หลังจากฝนตกจะมีหยดน้ำมาเกาะที่ดอกไม้หรือพื้นผิวต่างๆ มองดูว่าหยดน้ำเกาะอะไรที่น่าสนใจ แล้วถ่ายออกมาดู

ถ่ายเมฆและหมอก

ก่อนฝนจะตกคุณจะเห็นเมฆครึ้มรูปแบบมันน่าสนใจ บางครั้งมันดูน่าสนใจไม่แพ้ วันอากาศดีๆเลย

บางครั้งอาจเจอลำแสงลอดผ่านเมฆ บางครั้งก็แสงที่ผ่านเมฆนั้นลงสู่ subject ที่เราสนใจเป็นหย่อมๆ ภาพก็ดูน่าสนใจไปอีกแบบ และเมฆเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ แสงก็จะเปลี่ยนไป จะถ่าย timelapse ก็ออกมาน่าสนใจเช่นกัน

การตั้งค่ากล้อง

บางภาพที่แนะนำมา ต้องการการควบคุมกล้องที่ดี เพราะบางภาพใช้โหมดออโต้ถ่ายไม่ได้ เช่นถ่ายหยดน้ำที่หน้าต่าง หากใช้ auto มันอาจไปโฟกัสที่อาคาร ไม่ใช่ที่หยดน้ำ และทดลองระยะห่างที่ยืนจากหน้าต่างเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด บางครั้งก็ควรใช้โฟกัสแบบ manual ไปเลย เพราะกล้องส่วนใหญ่จะออโต้โฟกัสไปยัง subject ที่อยู่ด้านนอก

สำหรับการถ่ายหยดน้ำตามดอกไม้ ใบไม้หรือพื้นผิวต่างๆ คุณสามารถใช้ Aperture Priority mode  ด้วยค่ารูรับแสงที่ต่างกันทำให้ผลลัพธ์ออกมาต่างกัน อย่างที่ทราบว่าถ้ารูรับแสงกว้าง(f/ 2.0 – f/5.6) จะทำให้ได้ภาพชัดตื้นกว่า และถ้ารูรับแสงแคบจะทำให้ได้ถาพชัดลึกมากกว่า แล้วแต่คุณต้องการว่าอยากให้ภาพมีระยะชัดแค่ไหน

ดูแลกล้อง ดูแลตัวเอง

พยามหาเสื้อกันฝนและร่มมาใช้ และอย่าเปลี่ยนเลนส์กลางฝน ระวังเรื่องความชื้นด้วย แม้กล้องจะทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆก็ตาม แต่หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปเสี่ยง และดูแลกล้องให้ดีพอๆกับ ดูแลสุขภาพของคุณด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น